ทนายความจังหวัดพิจิตร ทนายธีรภัทร.com  083 166 5803 

ทนายความจังหวัดพิจิตร ทนายธีรภัทร.com  083 166 5803 

เปิดหน้าต่อไป

กฎหมายและฎีกาที่ควรรู้

ประสบการณ์ในอาชีพทนายความ

กฎหมายและฎีกาที่ควรรู้

รู้หมดกฎหมาย

  • สิทธิของผู้ต้องหาหรือจำเลยตามกฎหมาย


วันเสาร์ 11 กุมภาพันธ์ 2566

ทนายเตือนภัย เรื่อง สิทธิของผู้ต้องหาหรือจำเลย www.สู้คดี.com 

คอลเซ็นเตอร์ทนายความ 099 464 4445 

แชทกับทนายจอย: https://bit.ly/lawyerjoy

บุคคลใดก็ตามถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด และถูกจับกุมเป็นผู้ต้องหาตามกฎหมายยังถือว่าผู้นั้นบริสุทธิ์อยู่ จนกว่าจะถูกฟ้องเป็นจำเลยและศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามีความผิด ดังนั้นสิทธิของผู้ต้องหาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับอย่างเท่าเทียมกันตามรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 7/1 ได้กำหนดสิทธิของผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาไว้ว่า ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาซึ่งถูกควบคุมตัวหรือคุมขัง มีสิทธิแจ้งให้ญาติหรือผู้ที่ผู้ต้องหาไว้วางใจทราบถึงการถูกจับกุม หรือสถานที่ถูกควบคุมตัวในโอกาสแรกที่ถูกจับ และมีสิทธิที่จะพบและปรึกษาทนายความเป็นการเฉพาะตัว รวมถึงให้ทนายความเข้าฟังการสอบปากคำในชั้นสอบสวน และได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อกับญาติได้ตามสมควร ตลอดจนได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็ว เมื่อเกิดการเจ็บป่วย นอกจากนี้ กฎหมายได้กำหนดให้เจ้าพนักงานปกครอง หรือตำรวจผู้รับมอบตัว หรือผู้จับกุมต้องแจ้งสิทธิของผู้ต้องหาหรือผู้ถูกจับกุมให้ทราบในโอกาสแรกที่ถูกจับกุมด้วย

ขอบคุณข้อมูลจากเพจรู้หมดกฎหมาย มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445 อยากปรึกษาหรือหาข้อมูลสู้คดีที่เวปไซต์นี้ www.ทนายภูวงษ์.com

คดีอาญา

คดีอาญา  คือ  คดีที่เกี่ยวกับความผิดและโทษ  ซึ่งได้กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายอื่น  เช่น พระราชบัญญัติต่างๆ ซึ่งมีโทษในทางอาญา
           โทษทางอาญา มี 5 สถาน ได้แก่  ประหารชีวิต  จำคุก  กักขัง  ปรับ  และริบทรัพย์สิน

หลักเกณฑ์การเป็นผู้เสียหาย

            มาตรา 2 (4) “ผู้เสียหาย” หมายความถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง   รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้ ดั่งบัญญัติไว้ในมาตรา 4, 5 และ 6

            การดำเนินคดีอาญามีอยู่ 2 ทาง คือ

            1.ผู้เสียหายแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน โดยกล่าวหาว่ามีผู้กระทำผิดขึ้น และการกระทำนั้นก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย (คำร้องทุกข์) ผู้เสียหายจะต้องมีเจตนาให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษ   และเมื่อพนักงานสอบสวนรับแจ้งเหตุดังกล่าวแล้ว   พนักงานสอบสวนจะต้องทำการสืบสวนและสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน  และเมื่อพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จแล้ว  ก็จะต้องสรุปสำนวนการสอบสวนดังกล่าวต่อไป  

            2.ผู้เสียหายสามารถฟ้องคดีต่อศาลเองโดยตรงก็ได้